Inglourious Basterds 2009 ยุทธการเดือดเชือดนาซี

Inglourious Basterds (2009) ยุทธการเดือดเชือดนาซี

ฉากหลัง:

ปี 1944 เยอรมนีนาซีเข้ายึดครองฝรั่งเศส บรรยากาศของสงครามอันโหดร้ายโหดร้ายอยู่ทุกหนทุกแห่ง

สองเส้นทางแห่งการล้างแค้น:

1. เหล่า Basterds: ทหารอเมริกันเชื้อสายยิว นำโดยร้อยโทอัลโด เรน (แบรด พิตต์) มุ่งมั่นล้างแค้นนาซีสำหรับความโหดร้ายที่พวกเขาได้ก่อไว้ พวกเขาสร้างความหวาดกลัวและความสยดสยองด้วยการสังหารทหารเยอรมันและนำหนังศีรษะมาเป็นรางวัล

2. ชอซานนา ดรอยฟุส: หญิงสาวชาวยิว ชอซานนา (เมลานี โลรองต์) เป็นพยานเห็นการสังหารหมู่ครอบครัวของเธอโดยพันเอกเอสเอส ฮันส์ ลันดา (คริสตอฟ วอลทซ์) ด้วยความแค้นที่ลุกโชน เธอวางแผนกำจัดเหล่าผู้นำนาซีระหว่างการฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์

การเปิดเผยแผนการ:

ปฏิบัติการคิโน: บริดเจ็ต ฟอน แฮมเมอร์สมาร์ค (ไดแอน ครูเกอร์) นักแสดงหญิงชาวเยอรมัน ทำงานลับให้กับหน่วยข่าวกรองอังกฤษ เธอแทรกซึมเข้าไปในกลุ่มผู้นำนาซี ภารกิจของเธอคือ ส่งสัญญาณให้เหล่า Basterds ระหว่างการฉายภาพยนตร์ เป็นการจุดชนวนการลอบสังหาร

เกมแมวจับหนู:

ความตึงเครียดพุ่งสูงขึ้นเมื่อลันดา สงสัยในตัวตนที่แท้จริงของฟอน แฮมเมอร์สมาร์ค เขาเล่นเกมจิตวิทยาที่ตึงเครียดกับเธอ เขาจะเปิดเผยตัวตนของเธอและขัดขวางแผนการทั้งหมดหรือไม่?

จุดสุดยอดและผลลัพธ์:

ไฟและความโกรธเกรี้ยว: ชอซานนา เจ้าของโรงภาพยนตร์ที่ใช้ฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ ลงมือตามแผน เธอเผาโรงภาพยนตร์จนวอดวาย เหล่านาซีถูกกักขังอยู่ภายใน ในเวลาเดียวกัน เหล่า Basterds ได้รับสัญญาณจากฟอน แฮมเมอร์สมาร์ค บุกเข้าโจมตีเหล่านาซีที่เหลืออย่างโหดเหี้ยม เกิดเป็นฉากการต่อสู้ที่นองเลือด

ชะตากรรมที่ถูกลิขิต:

• ลันดา พยายามต่อรองชีวิตกับเหล่า Basterds แต่สุดท้ายต้องพบกับจุดจบอันน่าสยดสยองจากเรน
• ชอซานนา เชื่อกันว่าเธอได้ล้างแค้นสำเร็จ หายตัวไปท่ามกลางกองไฟ

ประเด็นสำคัญที่ภาพยนตร์นำเสนอ:

• ความซับซ้อนและผลลัพธ์ของการล้างแค้น
• ความโหดร้ายและความป่าเถื่อนของสงคราม
• การต่อต้านของชาวยิวต่อการกดขี่ของนาซี
• การสำรวจประวัติศาสตร์ในแบบสมมุติ

หมายเหตุ: เนื้อเรื่องนี้สรุปประเด็นสำคัญของภาพยนตร์ แต่เสน่ห์ที่แท้จริงของภาพยนตร์เรื่องนี้ อยู่ที่การเล่าเรื่องแบบไม่เรียงลำดับ ฉากความรุนแรงที่สมจริง และอารมณ์ขันแบบมืดเฉพาะตัว เพื่อที่จะเข้าใจภาพยนตร์เรื่องนี้ลึกซึ้ง แนะนำให้รับชมภาพยนตร์ด้วยตัวเอง