เรื่องราว:
เลโอนาร์ด โวล (รับบทโดย ไทโรน เพาเวอร์) ถูกจับในข้อหาฆาตกรรม เอมีลี่ เฟรนช์ (รับบทโดย เอลา ริคเตอร์) หญิงม่ายร่ำรวยที่เพิ่งแต่งตั้งเขาเป็นผู้รับผลประโยชน์หลักในพินัยกรรม
ทนายฝ่ายจำเลย:
เซอร์ วิลฟริด โรบาร์ตส์ (รับบทโดย ชาร์ลส์ ลอตัน) ทนายความผู้เฉลียวฉลาดแต่สูงวัย ตัดสินใจรับเป็นทนายแก้ต่างให้เลโอนาร์ด แม้จะมีหลักฐานทาง circumstantial (circum-stan-tial) มากมายที่ต่อต้านเลโอนาร์ด แต่เซอร์ วิลฟริด เชื่อในความบริสุทธิ์ของเขา
พยาน:
คดีของฝ่ายอัยการขึ้นอยู่กับพยานปากเอกที่ไม่มีใครคาดคิด – คริสติน โวล (รับบทโดย มาร์เลน ดิตริช) ภรรยาของเลโอนาร์ด เธอให้การว่าเลโอนาร์ดสารภาพการฆาตกรรมกับเธอ ดูเหมือนจะเป็นการปิดตายคดีของเขา
แรงจูงใจของภรรยา:
คำให้การของคริสตินทำให้เลโอนาร์ดตกเป็นผู้ต้องสงสัย แต่เซอร์ วิลฟริด สังเกตเห็นความไม่สอดคล้องในคำพูดของเธอ และท่าทีเย็นชาที่เธอมีต่อสามี
เปิดโปงความจริง:
เมื่อเซอร์ วิลฟริด investigate (in-ves-ti-gate) ลึกลงไป เขาค้นพบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าคริสตินอาจมีแรงจูงใจของตัวเอง เขาพบจดหมายรักที่เปิดเผยว่าคริสตินมีชู้
แผนการอันชาญฉลาด:
เซอร์ วิลฟริด ตัดสินใจเสี่ยง เขาเปิดเผยเรื่องชู้สาวของคริสตินในศาล discredit (dis-cre-dit) คำให้การของเธอว่าเป็นความพยายามที่สิ้นหวังเพื่อกำจัดสามี
พลิกผันอย่างคาดไม่ถึง:
การเปิดเผยกลับตาลปัตรอย่างน่าตกตะลึง คริสติน ถูกเปิดเผยและถูกดูหมิ่น ร้องไห้ล้มทั้งยืนในศาล แม้คำให้การของเธอจะถูก discredit แต่ breakdown (break-down) ทางอารมณ์ของเธอทำให้คณะลูกขุนตั้งคำถามเกี่ยวกับความบริสุทธิ์ของเลโอนาร์ด
คำตัดสินที่ไม่แน่นอน:
แม้จะมีการนำเสนออย่างชาญฉลาดของเซอร์ วิลฟริด แต่คณะลูกขุนยังคงไม่เชื่อใจ ภาพยนตร์เรื่องนี้จบลงด้วยตอนจบที่คลุมเครือ ตั้งคำถามว่าเลโอนาร์ดเป็นผู้บริสุทธิ์จริงหรือเป็นฆาตกรจอมเจ้าเล่ห์ที่หนี justice (jus-tice) ไปได้