ภาพยนตร์เรื่อง “The Help” ออกฉายในปี 2011 เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในรัฐมิสซิสซิปปี ในช่วงการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิพลเมืองปี 1963 โดยมุ่งเน้นไปที่ตัวละครหลัก 3 คน ดังนี้
1. สกีเตอร์ เฟลาน: หญิงสาวผิวขาวผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นนักข่าว เธอรู้สึกไม่เข้าพวกกับสังคมรอบตัวและต้องการเขียนหนังสือเพื่อเปิดเผยเรื่องราวของเหล่าแม่บ้านผิวสีที่ทำงานในบ้านของคนผิวขาว
2. เอมีลีน คลาร์ก: แม่บ้านผิวสีวัยชราที่ทุ่มเทเลี้ยงดูเด็กผิวขาวมาหลายทศวรรษ แม้ต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมส่วนตัวและอคติในสังคม
3. มินนี่ แจ็กสัน: แม่บ้านผิวสีผู้เฉลียวฉลาดและกล้าแสดงออก เธอช่วยเหลือสกีเตอร์อย่างลับๆ ในการเขียนหนังสือ
สกีเตอร์ต้องเผชิญแรงต้านจากผู้หญิงผิวขาวคนอื่นๆ โดยเฉพาะฮิลลี่ ฮอลบรู๊ค หญิงสาวผู้ยึดมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณีและต้องการรักษาสถานะเดิมไว้ แม้จะเต็มไปด้วยอุปสรรค สกีเตอร์ก็โน้มน้าวเอมีลีนและมินนี่ให้แบ่งปันเรื่องราวของพวกเธอ ซึ่งเปิดเผยความโหดร้ายของการเหยียดผิวและความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างแม่บ้านผิวสีกับนายจ้างผิวขาว
เมื่อสกีเตอร์ลงลึกกับโครงการมากขึ้น แม่บ้านคนอื่นๆ ก็เริ่มเข้าร่วม แม้จะเสี่ยงต่อการถูกไล่ออกและตกอยู่ในอันตราย เรื่องราวของพวกเธอเผยให้เห็นถึงปัญหาที่พวกเขาเผชิญในชีวิตประจำวัน ความอยุติธรรมที่พวกเขาต้องทน และความรักและความผูกพันที่พวกเขามีต่อเด็กๆ ที่พวกเขาเลี้ยงดู
ภาพยนตร์เรื่องนี้สำรวจประเด็นเกี่ยวกับความกล้าหาญ มิตรภาพ อคติ และการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม นำเสนอมุมมองเกี่ยวกับขบวนการสิทธิพลเมืองผ่านประสบการณ์ของผู้หญิงเหล่านี้ เน้นย้ำถึงผลกระทบจากการแบ่งแยกสีผิวและพลังของเสียงจากบุคคลในการท้าทายสถานะเดิม
อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการนำเสนอประเด็นเรื่องเชื้อชาติและพลวัตทางสังคม บางคนโต้แย้งว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ปัญหาที่ซับซ้อนกลายเป็นเรื่องง่ายและพึ่งพาภาพลักษณ์แบบเดิมๆ
ข้อควรระวัง: ภาพยนตร์เรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเหยียดผิว ความรุนแรง และการล่วงละเมิดทางเพศ
สรุป: ภาพยนตร์เรื่อง “The Help” เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จทางการค้า กระตุ้นให้เกิดบทสนทนาเกี่ยวกับความสัมพันธ์เชื้อชาติและความสำคัญของการรับรู้ประสบการณ์ของกลุ่มคนชายขอบ