The Good, the Bad and the Ugly 1966 มือปืนเพชรตัดเพชร

มือปืนเพชรตัดเพชร: เรื่องย่อ

มือปืนเพชรตัดเพชร เป็นภาพยนตร์ปี 1966 กำกับโดยเซร์คิโอ ลีโอเน่ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีฉากหลังเป็นนิวเม็กซิโกในช่วงสงครามกลางเมืองอเมริกา และติดตามเรื่องราวของมือปืนไร้ความปราณีสามคน: โจ ผู้ถูกขนานนามว่าคนดี (คลินต์ อีสต์วูด) Tuco ผู้ถูกขนานนามว่าคนขี้เหร่ (Eli Wallach) และ Sentenza ผู้ถูกขนานนามว่าคนเลว (Lee Van Cleef) ชายทั้งสามคนกำลังตามหามหาสมบัติที่ซ่อนอยู่ในสุสาน แต่เพื่อที่จะได้มันมา พวกเขาต้องต่อสู้กันเองและกับเจ้าหน้าที่

เนื้อเรื่อง

ภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นด้วย Tuco โจรชาวเม็กซิกันที่ถูกจับโดยทหารฝ่ายสหภาพ Tuco ถูกตัดสินประหารชีวิต แต่เขาสามารถหลบหนีได้ด้วยความช่วยเหลือจาก Joe นักล่าค่าหัวที่ส่งมอบเขาให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อรับเงินรางวัล อย่างไรก็ตาม Joe ไม่ได้ตั้งใจจะแบ่งเงินรางวัลกับ Tuco และทิ้งเขาไว้กลางทะเลทราย

ในขณะเดียวกัน Sentenza มือปืนไร้ความปราณี กำลังตามหามหาสมบัติที่ซ่อนอยู่ในสุสาน Sentenza ต้องการชื่อของหลุมศพที่สมบัติถูกฝังไว้ ซึ่งมีเพียง Tuco เท่านั้นที่รู้

Tuco และ Joe พบกันอีกครั้ง และหลังจากผ่านเรื่องราวมากมาย พวกเขาตัดสินใจร่วมมือกันเพื่อค้นหาสมบัติ ชายทั้งสองคนติดตาม Sentenza ผู้ซึ่งในระหว่างนั้นได้พบหลุมศพแล้ว แต่ไม่สามารถหาสมบัติได้

ในที่สุด มือปืนทั้งสามก็มาพบกันที่สุสานที่พวกเขายิงต่อสู้กันจนตัวตาย Joe ด้วยความเฉลียวฉลาดของเขาสามารถฆ่า Sentenza และ Tuco และยึดสมบัติไว้ได้

ตัวละคร

• Joe ผู้ถูกขนานนามว่าคนดี (Clint Eastwood): นักล่าค่าหัวที่โหดเหี้ยมและเจ้าเล่ห์ แต่มีจริยธรรม
• Tuco ผู้ถูกขนานนามว่าคนขี้เหร่ (Eli Wallach): โจรชาวเม็กซิกัน หยาบคาย และรุนแรง แต่มีเสน่ห์ดึงดูด
• Sentenza ผู้ถูกขนานนามว่าคนเลว (Lee Van Cleef): มือปืนที่โหดเหี้ยม ไร้ความปราณี พร้อมทำทุกอย่างเพื่อสิ่งที่เขาต้องการ

บทวิเคราะห์

มือปืนเพชรตัดเพชร ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์สปาเก็ตตี้เวสเทิร์นที่ดีที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการยกย่องจากการกำกับของเซร์คิโอ ลีโอเน่ ดนตรีประกอบโดยเอ็นnio มอร์ริโคเน่ การแสดงของนักแสดง และฉากแอ็คชั่นที่น่าตื่นเต้น

ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากในเชิงพาณิชย์ โดยทำรายได้ไปกว่า 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มือปืนเพชรตัดเพชร เป็นภาพยนตร์ที่ปฏิวัติภาพยนตร์แนวเวสเทิร์น และช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับ Clint Eastwood